ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวในทวีปยุโรป ผมเชื่อว่า “โปรตุเกส” อาจจะไม่ใช่ประเทศอันดับต้นๆในลิสต์ของคนส่วนใหญ่
แต่ผมมั่นใจเลยครับว่า “ทุกคนที่มาเยี่ยมเยียนเมือง Porto จะต้องมีรอยยิ้มและความทรงจำดีๆกลับบ้านแน่นอน” !!
Porto หรือ “ปอร์โต้” หรือ “ปอรตู” คือ เมืองท่าริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกที่ถือเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศโปรตุเกสรองจากเมืองหลวงอย่าง Lisbon เท่านั้น
ความ “มหัศจรรย์” ของเมือง Porto นั้นอยู่ที่ 3 ส่วนหลักๆครับ ได้แก่ 1. สิ่งปลูกสร้างอันแสนเก่าแก่และสวยงามที่ตั้งอยู่เรียงรายตลอดทั่วทั้งเมือง ตั้งแต่ บ้านหลังเล็กๆไปจนถึงโบสถ์ขนาดใหญ่ที่พื้นที่ส่วนใจกลางเมืองเก่านั้นได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO ด้วย 2. ความเป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลที่มีแม่น้ำไหลตัดผ่านใจกลางเมืองซึ่งทำให้พื้นที่ริมทะเลนั้นสวยงามและเหมาะกับการมานั่งรับลมเย็นสบายสุดๆ และ 3. ความเป็นต้นกำเนิดของ Port Wine ซึ่งเป็นไวน์ที่ผ่านกรรวมวิธีการบ่มแบบพิเศษที่ทำให้ไวน์มีความ “แรง” และความหวานมากกว่าไวน์ทั่วๆไป
ซึ่งโดยรวมแล้ว การเดินทางท่องเที่ยวในเมือง Porto นั้นจะแตกต่างจากการตะลุยเก็บแลนด์มาร์กเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆครับ นักท่องเที่ยวควรที่จะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วันเพื่อเดินชมพื้นที่ส่วนต่างๆของเมืองที่มีความสวยงามและรับบรรยากาศของเมืองนี้แบบเต็มๆครับ เมืองนี้สวยทั้งเมืองเลย ไม่เชื่อติดตามบันทึกการเดินทางและรูปของผมได้เลยครับ อิอิ
ก่อนที่จะเข้าไปยังจุดท่องเที่ยวหลักๆ ผมขอพาทุกท่านไปชมบรรยากาศของย่านใจกลางเมือง Porto ที่เต็มไปด้วยตึกทรงโบราณสุดคลาสสิคตลอดสองข้างถนนเลยครับ สวยงามมาก
Clérigos Tower: จุดท่องเที่ยวที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง Porto ซึ่งเป็นหอคอยสูงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดของโบสถ์คริสต์สไตล์บาโรคที่ทุกคนจะต้องมาปีนยอดหอคอยเพื่อชมวิวของเมือง Porto แบบเต็ม 360 องศาครับ
Livraria Lello: ร้านหนังสือขนาดเล็กบรรยากาศคลาสสิคที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามและเหมาะแก่การมาถ่ายรูปมากๆ (แต่ต้องเสียค่าเข้าด้วยนะครับ – ตั๋วเอาไปเป็นส่วนลดหนังสือได้)
São Bento: ถัดมาที่ย่านกลางเมืองจะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟกลางของเมือง Porto ที่เราไม่ได้มาเพื่อขึ้นรถไฟ แต่มาเพื่อชมงานจิตกรรมฝาผนังที่อลังการมากๆ ชอบมากเลย !!
Igreja Paroquial de Santo Ildefonso: โบสถ์โบราณอายุกว่า 200 ปีที่มีความโดดเด่นตรงกระเบื้องสีขาวฟ้าที่ถูกติดอยู่รอบๆผนังโบสถ์ครับ ข้างๆกันก็มีเส้นทางของรถรางโบราณที่คลาสสิคมากๆเช่นกัน
Porto Cathedral: มหาวิการขนาดใหญ่ยักษ์สุดอลังการที่ตั้งอยู่บนยอดเขากลางเมือง Porto ที่ยังเป็นจุดชมวิวตัวเมืองและหอคอย Clérigos แบบ 360 องศาด้วยครับ
Luís I Bridge: และแล้วก็มาถึงไฮไลต์อันดับหนึ่งของเมือง Porto นั่นก็คือการเดินข้ามสะพานข้ามฟากเพื่อชมวิวของเมือง Porto ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งที่สวยงามอลังการสุดๆสมกับเป็นเมืองมรดกโลกจริงๆครับ ระหว่างทางมีงาน street art สวยๆให้ดูเป็นระยะๆด้วย
และเนื่องจากเมือง Porto นั้นมีภูมิประเทศแบบสูงๆต่ำๆ ทำให้ผมเลือกที่จะนั่งกระเช้าไฟฟ้าจากยอดของสะพานเพื่อลงไปยังพื้นที่ริมแม่น้ำด้านล่างครับ
และนี่คือบรรยากาศของจุดชมวิวริมทะเลที่สามารถมองเห็นย่านเมืองเก่าที่เรียกว่า Ribeira แบบเต็มๆครับ
อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการมาเยือนเมือง Porto ก็คือการเยี่ยมชมโรงผลิตไวน์ Port Wine อย่าง CALEM ที่สอนกรรมวิธีการผลิตไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้พร้อมๆกับการให้ชิมไวน์พอร์ตทั้งหมด 2 แก้ว ฟินมาก (สำหรับด้านสาระ: การผลิต Port Wine นั้นจะมีกรรมวิธีการหยุดยั้งกระบวนการหมักไวน์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ด้วย ด้วยการเติมแอลกอฮอล์เข้าไปในไวน์แทน ทำให้ไวน์ยังมีความหวานจากน้ำตาลที่เหลืออยู่พร้อมกับความเข้มของแอลกอฮอล์ที่ถูกเติมเข้าไป จิบ 2-3 แก้วอาจจะเข้าขั้นมึนๆได้เลยนะ)
ปิดท้าย ผมขอฝากรูปวิวริมสองฝั่งแม่น้ำขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกครับ โรแมนติกมาก !!
<<< ติดตามรีวิวท่องเที่ยวทั่วประเทศโปรตุเกสต่อได้ที่นี่ [CLICK] >>>
<<< Restaurant Reviews in Portugal : รวมรีวิวร้านอาหารชื่อดัง ณ ประเทศโปรตุเกส [CLICK] >>>
เพื่อนๆสามารถติดตามอีกเว็ปไซต์ของผม “Yummy Gallery” เพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Twitter
(ผมเคยมีผลงานรีวิวในเว็ปบอร์ดของ Pantip และ Wongnai)
Leave a Reply