ถ้าใครสงสัยว่าทำไมประเทศเล็กๆที่แทบไม่มีทรัพยากรของตัวเองเลยอย่างประเทศสิงคโปร์นั้นแลงกายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของภูมิภาค ASEAN และยังเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกได้อย่างไรนั้น คำตอบอยู่ใน National Museum of Singapore พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสิงคโปร์ทั้งหมดครับ
National Museum of Singapore คือพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของชาติสิงคโปร์ตั้งแต่แรกเริ่มเป็นเกาะเล็กๆที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย จนเข้าสู่ยุคที่สิงคโปร์กลายมาเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักรอังกฤษที่เข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจนกลายมาเป็นจุดศูนย์รวมการค้าของภูมิภาค ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะนำพาให้ญี่ปุ่นเข้ามายึดสิงคโปร์ได้สำเร็จและเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น Syonan-to อยู่หลายปีจนสงครามโลกสงบลง สิงคโปร์ก็ได้เริ่มได้อิสรภาพจากชาติตะวันตกและได้ประกาศตัวเป็นอิสรภาพในปี 1965 โดยมี “ลี กวน ยู” เป็นนายกรัฐมนตรีผู้ที่ใช้นโยบายส่งเสริมการลงทุนของต่างประเทศและการพัฒนาแรงงานในประเทศให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญและยกระดับความเป็นอยู่คนชาวสิงคโปร์ไปไกลอย่างที่ประเทศเพื่อนบ้านเทียบไม่ได้ (สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลแบบละเอียดต้องเข้าไปดูนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์ครับ ผมนี่ขนลุกเลย)
นอกจากเรื่องประวัติศาสตร์ National Museum of Singapore ยังมีการจัดแสดงงานศิลปะต่างๆด้วย ซึ่งโชคดีมากตอนที่ผมไปเป็นงานจัดแสดงแสงสีของ Teamlab ที่สวยงามมากๆครับ ใครมีเวลา 3-4 ชั่วโมงเหลือก็แวะมาเสพย์ประวัติศาสตร์กันนะครับ คุ้มค่ามาก
อาคาร National Museum of Singapore สุดคลาสสิค
ค่าตั๋ว 15 SGD ครับผม
Sir Stamford Raffles บิดาแห่งสิงคโปร์ในยุคอาณานิคม
แผนที่ของแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สมัย 400 ปีก่อน
แผนที่ประเทศสิงคโปร์เวอร์ชั่นแรกๆ
รถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ลี กวน ยู กับการสร้างชาติสิงคโปร์
สิงคโปร์ยุครุ่งเรือง
ภาพถ่ายชนะเลิศของปี 2016 ที่เป็นรูปของ Joseph Schooling ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของสิงคโปร์
นิทรรศกาลดอกไม้โดย Teamlab
การเดินทาง: MRT Bras Basah
เว็ปไซต์: http://nationalmuseum.sg/
<< Singapore Trip 2017 : ทริปสิงคโปร์แบบเต็มอิ่มในวันที่อากาศร้อนสุดใจ >>
<<< Restaurant Reviews in Singapore : รวมรีวิวร้านอาหารยอดนิยมประจำประเทศสิงคโปร์ >>>
เพื่อนๆสามารถติดตามอีกเว็ปไซต์ของผม “Yummy Gallery” เพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Twitter
(ผมเคยมีผลงานรีวิวในเว็ปบอร์ดของ Pantip และ Wongnai)
Leave a Reply