Blue by Alain Ducasse : ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ 1 ดาวมิชลินสตาร์ของสุดยอดเชฟระดับโลก @ ICONSIAM

รีวิว: Blue by Alain Ducasse

ประเภทอาหาร: Contemporary French

รางวัล: 1 Michelin Star (ปี 2021)

Blue by Alain Ducasse คือ ร้านอาหารฝรั่งเศสแบบร่วมสมัยโดยฝีมือของ Alain Ducasse เชฟชาวฝรั่งเศสวัย 63 ปีผู้เป็นเจ้าของดาวมิชลินสตาร์ที่เยอะที่สุดในโลกรวมกว่า 20 ดวง !! ซึ่งร้านอาหารน้องใหม่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นในห้าง ICONSIAM พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสุดอลังการแห่งนี้ก็สามารถคว้าดาวมิชลินสตาร์ 1 ดวงได้สำเร็จประจำปี 2021 !!

รีวิวครั้งนี้ ผมเลือกสั่งเมนู BLUE EXPERIENCE (4,950++ THB) ที่ประกอบด้วยเมนูอาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศทั้งหมด 7 คอร์สที่อัดแน่นไปด้วยเทคนิคการทำอาหารสุดพิถีพิถันและวัตถุดิบชั้นเลิศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไข่ปลาคาเวียร์สีทอง กุ้งคาราบิเนรอสจากประเทศสเปน ฟัวกราส์ เห็ดทรัฟเฟิลและเนื้อวากิว ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสคุณภาพสมกับดาวมิชลินสตาร์ 1 ดวงมาก การตกแต่งร้านอาหารก็สวยงามสุดยอดมาก เสียอย่างเดียวตรงราคาที่แอบแรงเกินไปซักหน่อยครับ

Panasm’s rating : ★★★★★★

value for money : $$$$$

Amuse Bouche #1: Comté gougères [15/20] – พัฟแป้งชูต์ชีสกอมเต้ผสมพริกไทยดำซึ่งถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยซิกเนเจอร์ของเชฟ Alain Ducasse ตัวแป้งเนื้อกรอบเบามีรสชาติเค็มมันหอมของชีสและความเผ็ดร้อนของพริกไทยที่ลงตัวมาก อยากทานอีก 2-3 ชิ้น !!

Amuse Bouche #2: Vegetable roll & Sardine tartlette [15/20] – เมนูของทานเล่นสองคำแรก อันได้แก่ โรลผักหลากชนิดรสเปรี้ยวหวานที่สามารถเรียกน้ำย่อยได้อย่างยอดเยี่ยมและทาร์ตมูสปลาซาดีนรสเค็มๆมันๆ

Amuse Bouche #3: Eggnog Royale [13/20] – คัสตาร์ด “เอ้คน้อค” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมหลักคือนมและไข่เสิร์ฟพร้อมกับครีมเอ้คน้อคอีกหนึ่งชั้นรสหวานหอมแบบสองรสสัมผัส

Breads & Butter [15/20] – ขนมปังซาวร์โว์กับบริออชแป้งกรอบเสิร์ฟกับเนยแบบโฮมเมด

1st course: Blue crab, tomato water gelee, gold caviar [17/20] – เมนูเด่นของเชฟ Alain Ducasse ที่มักหยิบเอาอาหารทะเลมาเสิร์ฟคู่กับผักและไข่ปลาคาเวียร์สีทองซึ่งของประเทศไทยก็ได้ “เนื้อปูม้า” มาเสิร์ฟคู่กับคาเวียร์รสเค็มอูมามิและเจลลี่มะเขือเทศรสเปรี้ยวหวานเข้ากันได้อย่างลงตัวมากๆ ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม

2nd course: Chilled carabineros, butternut sqaush [16/20] – เนื้อกุ้งแดงคาราบิเนรอสปรุงแบบพอสุกจนได้เนื้อเด้งหวานหอมกลิ่นทะเลเสิร์ฟคู่กับบัตเตอร์นัทสควอชสีส้มสดและมอสซาเรลล่าชีสที่ทำเป็นเกี๊ยวสอดไส้เนื้อกุ้งและผักหลากชนิด ราดด้วยซอสครีมเฟรสรสเปรี้ยวมัน เมนูนี้ถือเป็นอีกเมนูที่โดดเด่นมาก องค์ประกอบของจานหลากหลาย สีสันสดใส รสชาติเข้ากันได้ดี

3rd course: ‘Upside down’ aged Comte cheese souffle, black trumpet [15/20] – ซูเฟล์ชีสกอมเต้เนื้อเนียนนุ่มเสิร์ฟแบบกลับหัวคู่กับไส้เห็ดแบล็คทรัมเป็ตและทรัฟเฟิล เมนูนี้หอมตลบอบอวนมาก

4th course: Suzuki steamed with seaweed, turnip [16/20] – เนื้อปลาซูซูกินึ่งกับสาหร่ายจนเนื้อขาวเนียนเด้งกำลังดีเสิร์ฟกับซอสครีมรสชาติเข้ากันอย่างยอดเยี่ยมและหัวผักกาดเนื้อเนียนนุ่มหวานฉ่ำ

5th course: Rossini-style Wagyu beef tenderloin, chicory in the fireplace [16/20] – การผสมผสานกันของสองสุดยอดวัตถุดิบอย่าง “เนื้อวากิว” และ “ฟัวกราส์” เสิร์ฟคู่กับผักชิคอรี่และแก้มวัวตุ๋นในซอสจูซ ตบท้ายด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำ

6th course: Kiwi, cucumber and lemon balm [15/20] – เมนู pre-dessert สำหรับล้างปากที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดดีมากซึ่งประกอบไปด้วยกีวี มิ้นต์ แตงกวาและเลม่อนบาล์มเสิร์ฟในหลากหลายรสสัมผัสแบบเย็นๆ

7th course: Chocolate from our Manufacture in Paris, cocoa nib ice cream [14/20] – ทาร์ตช็อกโกแลตจากโรงงานของเชฟ Alain Ducasse ในปารีสรสชาติ “เข้มสุดใจ” เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมโกโก้นิบ

Petit Fours: Macaron & Chocolate Mousse [12/20] – เมนูขนมหวานคำเล็กปิดท้ายมื้ออาหารที่ประกอบไปด้วยมาการองเกาลัดแครนเบอร์รี่และช็อกโกแลตมูสไส้คาราเมล