รีวิว: Canvas
ประเภทอาหาร: Modern with Thai Ingredients
รางวัล: 1 Michelin Star (ปี 2022)
Canvas คือ ร้านอาหาร fine dining เจ้าของดาวมิชลินสตาร์ 1 ดวงโดยฝีมือของเชฟ Riley Sanders ผู้นำเสนอเมนูอาหารทั้งหมด 22 คอร์ส (6,000++ THB) ที่เกิดขึ้นจากการหยิบเอา “วัตถุดิบท้องถิ่น” คุณภาพเยี่ยมจากทั่วประเทศไทยมานำเสนอด้วยกรรมวิธีที่ผสมผสานทั้งแบบต้นตำรับและแบบสมัยใหม่ให้ออกมาเป็น “งานศิลปะ” ที่ทั้งอร่อย แปลกใหม่จากการผสมผสานวัตถุดิบที่หลากหลายและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ในแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่นสมชื่อ Canvas ที่แปลว่า “ผ้าใบสำหรับวาดภาพ”
[รีวิว] โดยรวมแล้ว Canvas ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารระดับ Top 5 ของผมในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานและการกลับมาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้อีกครั้งในรอบประมาณปีครึ่งก็ยังคงตอกย้ำถึงประสบการณ์สุดประทับใจที่เชฟ Riley สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้ตลอดระยะเวลาการรับประทานอาหาร 22 คอร์สนี้กว่า 3 ชั่วโมง ทั้งในด้านของการ presentation ของเมนูอาหารแต่ละจานที่เหมือนนั่งชมศิลปินเขียนงานศิลปะ abstract สวยๆ องค์ความรู้ของวัตถุดิบท้องถิ่นไทยเป็นร้อยๆชนิดที่คนไทยเองยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ความพิถีพิถันในการผสมผสานวัตถุดิบหลายสิบชนิดในการปรุงอาหารแต่ละจาน ไปจนถึง รสชาติอาหารที่มีความแปลกใหม่มาก ถึงแม้ว่าอาหารบางจานจะไม่ได้อร่อยไปสุดๆ แต่ความแปลกใหม่และความน่าสนใจก็จะทำให้ทุกท่านสนุกไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษของ Canvas ได้อย่างแน่นอน… แนะนำให้ทุกคนไปลองทานกันดูซักครั้งครับ
Panasm’s rating : ★★★★★★★
value for money : $$$$$
1st course : awakening [16/20] – เชอร์เบตสับปะรดห้วยมุ่นรสเปรี้ยวหวานสดชื่นที่เติมรสชาติและกลิ่นด้วยสมุนไพร อาทิ ขมิ้นขาว พริกขี้หนู น้ำมันโหระพา น้ำมะนาวและครีมจากแมงดา ถือเป็นเมนูเปิดมื้ออาหารที่ชวนให้ท้องร้องได้ดีมากๆครับ
2nd course : ants on a log [15/20] – ไข่มดแดงเม็ดโตวางเรียงกันอย่างสวยงามบนฝรั่งสีชมพูพร้อมด้วยซอสปลาร้าบองผสมใบหอมแขก สมุนไพรไทยหลากชนิดและส้มมะปี๊ด เมนูนี้ให้อารมณ์ความเป็นอาหารอีสานที่แปลกใหม่และครบรสชาติรสสัมผัสดีเหมือนกันครับ
3rd course : chicken & cow [13/20] – หนังไก่กรอบแผ่นบางทางคู่กับพิวรีพริกหยวกและดอกขจรดองโรยหน้าด้วยผงปรุงรสรสพริกหยวก ให้อารมณ์ขนมทานเล่นง่ายๆแต่มีเบื้องหลังที่ซับซ้อนมากทีเดียว
4th course : shell of eggs [16/20] – ไข่ปลาคาเวียร์จากหัวหินเสิร์ฟพร้อมกับไข่เป็ดแดงกงฟีและเกลือจากน่านในเปลือกไวท์ช็อกโกแลตแบบเย็นผสมน้ำมันมะพร้าวที่เติมรสชาติด้วยแยมหอมแดง เมนูนี้รสชาติอูมามิระเบิดในปากมากๆ เสียดายเลยไม่อยากทานหมดในคำเดียว
5th course : surprise from surat #1 [19/20] – เมนูเซอร์ไพรส์จากสุราษฎร์ธานีที่มีพระเอกอย่างเนื้อปลากระมงพร้าวจี่ถ่านเนื้อขาวเด้ง เสิร์ฟในน้ำซุปแบบเย็นที่ประกอบไปด้วยพริกชี้ฟ้า น้ำลิ้นจี่ เนื้อลิ้นจี่ ไข่ปลาดุกทะเลดอง ออริกาโน่และผงดอกไม้ที่รสชาติเปรี้ยวหวานหอมสดชื่นมาก เมนูนี้ถือเป็นเมนูทีเด็ดของมื้อที่อร่อยประทับใจแบบมากๆไปเลย !!
6th course : crab, tranquility [17/20] – เนื้อปู 2 ชนิดปรุงให้สุกด้วยอุณหภูมิต่ำที่ยังคงความหวานฉ่ำได้เป็นอย่างดีเสิร์ฟพร้อมกับไข่ปูเคียวร์ มิโสะถั่วเขียว ฟิงเกอร์ไลม์รสเปรี้ยวและรากบัวที่ช่วยเสริมความกรุบกรอบ แน่นอนว่าวัตถุดิบแบบนี้ยังไงก็อร่อยหลากรสหลากสัมผัสอย่างแน่นอน
7th course : bread & butter [17/20] – เมนูซิกเนเจอร์ประจำร้าน Canvas ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายปีที่ประกอบไปด้วยเนื้อขนมปังจากข้าวแดงเสิร์ฟพร้อมกับครีมบราวน์บัตเตอร์เนื้อหวานหอมละมุนโรยหน้าด้วยไข่แดงเค็มฝอย
8th course : surprise from surat #2 [17/20] – เมนูเซอร์ไพรส์จากสุราษฎร์ธานีอีกจานที่เปลี่ยนพระเอกเป็นเนื้อปลากระพงแดงเสิร์ฟในซอสครีมกระเทียมดองไวน์ขาวจากเขาใหญ่ เสิร์ฟพร้อมกับไข่ปลาริวกิว ไข่ปลาดุกทะเล น้ำมันขมิ้นชัน น้ำมันผักชีลาวและผักชีลาวทอด เมนูนี้ถือเป็นเมนูปลาเนื้อขาวซอสครีมที่อร่อยและมีลูกเล่นแบบไทยๆที่น่าสนใจมากๆ
9th course : prawn, sticky rice, vibrance [17/20] – กุ้งแม่น้ำเนื้อเด้งหวานเสิร์ฟออกมาเป็นงานศิลปะโทนสีร้อนที่ประกอบไปด้วยข้าวเหนียวที่หุงในน้ำสต็อกกุ้งเข้มข้น แครกเกอร์จากน้ำสต็อกกุ้ง ตะลิงปลิงและซอส 3 สีที่มีทั้งซอสมันกุ้ง ซอสบูดูและซอสพริกสีแดง เมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่อร่อยมากๆ แต่ทานซอสเยอะไปอาจจะเลี่ยนได้นิดๆ
10th course : andaman umami [16/20] – ครีมอูมามิจากทะเลอันดามันที่ประกอบไปด้วยเนื้อหอยหลากชนิด ปลาหมึกตากแห้ง หอยเชลล์ตากแห้ง กุ้งจิ๋วตากแห้งและสาหร่ายพวงองุ่นที่เสิร์ฟบนมูสเนื้อปลาแมคเคอเรลและเสาวรส
11th course : bounty [14/20] – เมนูจานใหญ่ยักษ์สุดอลังการที่แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติอันแสนกว้างใหญ่ที่ประกอบไปด้วยวัตถุดิบประเภทผักกว่า 50 ชนิดที่เปิดโอกาสให้นักชนิดได้ลิ้มลองรสชาติและรสสัมผัสที่หลากหลายเสิร์ฟพร้อมกับซอสหลากสีสันหลากรสชาติ อาทิ พิวรีข้าวโพดรสหวาน พิวรีฟักทองและพริกเผาจินดารสเผ็ดร้อน โรยหน้าด้วยผงปรุงรสจากเห็ดชิตาเกะ มะม่วง มะเขือเทศ บร็อคโคลี อัญชัญและบีทรูท
12th course : lobster, shapes & forms [16/20] – กุ้งมังกร 7 สีเนื้อเด้งปรุงรสด้วยเนยและน้ำเลม่อน เสิร์ฟพร้อมกับซอสน้ำพริกจากกุ้งมังกร ไขสันหลังวัวและสมุนไพรหลากชนิด พร้อมด้วยเครื่องเคียงหลากรูปลักษณ์ เช่น พริกจินดา แตงโมและใบชะมวง
13th course : pigeon #1, flavor of the hills [15/20] – ขานกพิราบจากกาญจนบุรีที่ผ่านการแช่น้ำเกลือ เอจ รมควัน ย่างและเกลซด้วยซอสกระเทียมน้ำผึ้ง เสิร์ฟพร้อมกับสมุนไพรปรุงรสจากแถบภูเขาภาคเหนือ อาทิ พริกไทยภูเขา มะแหลบ พริกกะเหรี่ยงและซูมัค
14th course : pigeon #2, crimson & rose [16/20] – นกพิราบส่วนอกจากกาญจนบุรีที่ผ่านการดรายเอจก่อนนำมาทอดและเกลซด้วยมะม่วงหาวมะนาวโห่กับพริกกะเหรี่ยง เสิร์ฟพร้อมกับชมพู่สดผักแพรวโรยหน้าด้วยผงบีทรูทและซอส 3 สีอันได้แก่ ซอสชมพู่บีทรูท บีทรูทครีมและซอสมะม่วงหาวมะนาวโห่ จานนี้ถือเป็นนกพิราบที่อร่อยไม่มีกลิ่นเหม็นและตัวซอสก็ทำออกมาได้สวยงามและรสชาติเข้ากัน
15th course : roots & blossoms [13/20] – ซอร์เบต์ที่ทำจากผักประเภทหัว เช่น แครอท ขิง ข่า รากผักชีและกระชาย ทานคู่กับน้ำผึ้ง น้ำมันดอกมะลิและดอกไม้
16th course : baby lamb & berries[15/20] – เนื้อแกะย่างแบบติดหนังติดมันหอมๆเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อสันคอแกะห่อใบสมุนไพรเสิร์ฟพร้อมกับซอสจูซแกะ ซอสลูกหม่อน น้ำมันใบเป็ปเปอร์ลีฟ มะเขือเทศกงฟีและลูกหม่อน
17th course : wagyu, shade of purple[16/20] – เนื้อไทยวากิวย่างและเกลซด้วยซอสถั่วเหลืองและซอสจูซผสมเครื่องเทศหลากชนิด เสิร์ฟพร้อมกับวัตถุดิบสีม่วงหลากชนิด ได้แก่ พิวรีมันม่วง กะหล่ำปลีม่วง น้ำพริกมะเขือม่วงและใบสมุนไพรสีม่วง ถือเป็นเมนูจานเนื้อที่มีธีมและรสชาติที่เน้นไปที่เครื่องสมุนไพรหลากชนิดที่อร่อยเข้ากันได้ดีครับ
18th course : refreshment [15/20] –ซอร์เบต์ลำไยผสมเนื้อลำไย เนื้อลูกไหนและไวน์บุษบา โรยหน้าด้วยผงเชอร์รี่ไทยสีขมพูสดใสที่ให้รสชาติแบบเปรี้ยวๆเย็นๆครีมๆสำหรับเตรียมทานขนมหวานจานถัดๆไป
19th course : sweet, dried, preserved [16/20] – เมนูขนมหวานจากวัตถุดิบแห้งทั้งหมดที่ประกอบไปด้วย ไอศกรีมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ คาราเมลจันทน์เทศ น้ำมันวานิลลา เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว ลูกเดือยตากแห้ง เกสรผึ้งและสายไหมโรยหน้าด้วยผงสัมแขก ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่โชว์องค์ความรู้ของวัตถุดิบที่ถูกหยิบมาผสมผสานกันได้อย่างน่าสนใจ
20th course : green & pink [15/20] – เมนูขนมหวานคำเล็กน่ารักที่ใช้เนื้อมังคุดแบบยังไม่สุกดีที่ไม่มีเมล็ดมาเสิร์ฟพร้อมกับพิวรีมังคุดผสมแก้งมังกรสีขมพูและพิวรีใบแมงลัก พึ่งเคยทานเนื้อมังคุดเขียวที่ยังไม่สุกครั้งแรก ก็อร่อยดีเหมือนกันครับ
21st course : savory scent of banana [14/20] – คัสตาร์ดกล้วยหอมสุกกับเนื้อกล้วยหอมสุกเสิร์ฟพร้อมกับเม็ดกระบกที่คล้ายๆก้บอัลมอนด์ ปรุงรสด้วยวัตถุดิบอีกหลากชนิด อาทิ ไซรัปขมิ้นชัน คาราเมลรัม ผงมะขามและเม็ดจันทน์เทศ
22nd course : roselle, radiance [15/20] – กระเจี๊ยบแดงเนื้อนุ่มเสิร์ฟพร้อมกับครีมไวท์ช็อกโกแลตจากกาญจนบุรีและเมอแรงค์กระเจี๊ยบแดง โรยหน้าด้วยผงกุหลาบและผงลูกพลัม ทานแบบคำเดียวหมดปิดท้ายมื้ออาหารได้ดี
ที่ตั้ง: 113, 9-10 ซ. สุขุมวิท 55 Klongton Nua, เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 (ปากซอยทองหล่อ 5)
เวลาเปิดให้บริการ: 18:00 – 21:30
เบอร์ติดต่อ: 099 614 1158
Website: https://www.canvasbangkok.com/
Facebook page: https://www.facebook.com/Canvasbkk/
<<< Michelin-starred Restaurant Reviews : รวมรีวิวสุดยอดร้านอาหารเจ้าของดาวมิชลินสตาร์ [CLICK] >>>
เพื่อนๆสามารถติดตามอีกเว็ปไซต์ของผม “Yummy Gallery” เพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Twitter
(ผมเคยมีผลงานรีวิวในเว็ปบอร์ดของ Pantip และ Wongnai)
Leave a Reply