Maison Dunand : ร้านอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์โดยอดีตเชฟใหญ่ของห้องอาหาร Le Normandie @ สีลม 9

รีวิว: Maison Dunand

ประเภทอาหาร: French

รางวัล: 1 Michelin Star (ปี 2023)

Maison Dunand คือ ร้านอาหารฝรั่งเศสแนว fine dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวโดยฝึมือของเชฟ Arnaud Dunand อดีตเชฟใหญ่ของห้องอาหาร Le Normandie ห้องอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาวที่ตัดสินใจเปิดร้านอาหารของตัวเองเพื่อนำเสนอเมนูอาหารฝรั่งเศสจากแคว้น Savoie แถบเทือกเขาแอลป์และแควัน Brittany ริมทะเลที่ได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์และความทรงจำในวัยเด็กของเชฟในรูปแบบคอร์สทั้งแบบมื้อกลางวัน (2,600++ THB) และแบบมื้อเย็น (4,900/7,900++ THB)

[รีวิว] โดยรวมแล้ว Maison Dunand นั้นถือได้ว่าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสระดับ “แถวหน้า” ของประเทศไทยได้อย่างสมภาคภูมิ !! รีวิวนี้ผมเลือกสั่งเมนูมื้อเย็นแบบ 4,900++ THB และขอ add-on เมนูคาเวียร์ครีมมันฝรั่งที่เป็นซิกเนเจอร์ของเชฟ Arnaud Dunand ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับเพราะเมนูอาหารทุกจานถูกปรุงได้อย่างดี มีความแปลกเป็นเอกลักษณ์น่าสนใจและมีรสชาติอร่อยอูมามิถูกปากทุกจานเลยครับ แต่ก็แอบรู้สึกว่าราคาแอบแรงไปซักนิดเพราะบรรยากาศและการบริการของร้านก็ไม่ได้หรูหราเหมือนกับที่ Le Normandie

Panasm’s rating : ★★★★★★★

value for money : $$$$$

Snack : BBQ Cracker [14/20] – แผ่นแป้งกรอบหน้าธัญพืชและสมุนไพรจากเทือกเขาแอลป์

1st course : Ratatouille, Eel, Periwinkles [17/20] – เมนูอาหารเรียกน้ำย่อย 3 รายการ ได้แก่ วาฟเฟิลฝรั่งเศสหน้าปลาไหลรมควัน, แป้งกรอบหน้าหอยทากทะเลตัวเล็กกับสาหร่าย กับ ซิการ์กรอบไส้สตูว์ผักฝรั่งเศส

2nd course : Basil, Goat Cheese [17/20] – ซุปใบโหระพากับชีสนมแพะเข้มข้นเสิร์ฟคู่กับขนมปังบริเอซโรสแมรี่

Bread & Butter [15/20] – ขนมปังฝรั่งเศสอุ่นๆเสิร์ฟคู่กับเนย 3 รสชาติ ได้แก่ เนยปกติ เนยผสมมะเขือเทศและเนยผสมสาหร่าย

3rd course : Brittany Crab, Tagete [16/20] – เนื้อปูหวานๆคลุกเคล้ากับส้มโอและโฟมไซตรัสที่เน้นรสชาติความเปรี้ยวหวานสดชื่น

4th course : Oyster, Anis [16/20] – หอยนางรมฝรั่งเศสเสิร์ฟคู่กับโฟมยี่หร่าที่เน้นรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อหอยนางรม

Extra course : Caviar, Potato (1,800++ THB) [18/20] – เมนูซิกเนเจอร์ของเชฟ Arnaud Dunand ตั้งแต่สมัย Le Normandie ที่เชฟเสิร์ฟโฟมครีมมันฝรั่งคู่กับไข่หอยเม่นฮอกไกโด ซอสแชมเปญและไข่ปลาคาเวียร์ที่เรียกว่าเป็นการรวมตัวกันของความอูมามิ

5th course : Wild Caught Cod, Tomato [17/20] – เนื้อปลาค้อดสีขาวเนียนเสิร์ฟในซุปมะเขือเทศใสที่ยังคงรักษาความเปรี้ยวหวานเข้มข้น

6th course : Mushroom, Yellow Wine [18/20] – ราวิโอลี่เห็ดพอร์โตเบลโลเสิร์ฟในซอสไวน์สีเหลืองพร้อมด้วยเห็ดทรัฟเฟิล เมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ดึงความอูมามิของวัตถุดิบอย่างเห็ดออกมาได้ดีเยี่ยม

7th course : Beef Short Rib, Artichoke [16/20] – เนื้อออสเตรเลียนส่วนซี่โครงเสิร์ฟกับซอสบาร์บีคิวคู่กับอาร์ติโชกทั้งแบบเป็นชิ้นและแบบพิวรี

Pre-dessert : Cherry Compote, Gin Tonic [17/20] – ซอร์เบต์จินโทนิคเสิร์ฟคู่กับคอมโพตเชอร์รีและมิกซ์เบอร์รีที่มีความเปรี้ยวสดชื่นดีมาก

8th course : Chocolate, Smoked Tea [16/20] – เมนูขนมหวานจานหลักที่เป็นไอศกรีมช็อกโกแลต 70% จากปาปัวนิวกินีเสิร์ฟคู่กับซอสขาผู่เอ๋อรมควันและแป้งกรอบ