รีวิว: Noma
ประเภทอาหาร: Scandinavian Seafood
รางวัล: 2 Michelin Stars (ปี 2019)
Noma ชื่อนี้ในวงการร้านอาหารระดับท็อปของโลกนั้นคงไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นก็เพราะว่า Noma และเชฟเจ้าของร้านอย่าง René Redzepi นั้นได้สร้างปรากฎการณ์สุดมหัศจรรย์ให้กับวงการอาหารของโลกมาแล้วอย่างมากมายจนทำให้ร้านอาหารแห่งนี้สามารถคว้าแช้มป์ร้านอาหารอันดับ 1 ของโลกจาก World’s 50 Best Restaurants ได้ถึง 4 ครั้งในปี 2010, 2011, 2012 และ 2014 ก่อนที่ร้านจะทำการปิดปรับปรุงร้านในปี 2016
Noma เวอร์ชั่น 2.0 ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2018 พร้อมกับชูค็อนเส็ปต์ใหม่เป็นร้านอาหาร 3 ฤดูกาล ได้แก่ seafood season (มกราคม-พฤษภาคม), vegetable season (มิถุนายน-กันยายน) และ game & forest season (ตุลาคม-ธันวาคม) ซึ่งแต่ละซีซั่นนั้นจะเปิดให้เริ่มจองล่วงหน้าประมาณครึ่งปีและโต๊ะเกือบทั้งหมดจะถูกจองจนเต็มภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น !! (ตอนผมจองนี่นั่ง refresh อยู่หน้าคอมรัวๆเลย)
รีวิวในครั้งนี้ ผมเลือกลิ้มลองเมนูอาหารของฤดูกาลแห่งซีฟู้ดที่สนนราคาทั้งสิ้น 2,500 DKK หรือประมาณ 12,000 บาทครับ โดยการมาเข้ามาระบประทานที่ร้านอาหารของ Noma นั้นจะมีความพิเศษมากๆตั้งแต่ก้าวแรกของการมาถึงหน้าบริเวณร้านที่จะมีพนักงานจำนวนมากคอยยืนต้อนรับอย่างอบอุ่นพร้อมๆกับการโชว์กระบวนการเตรียมอาหารจากวัตถุดิบในทะเลสแกนดิเนเวียนให้ดูกันแบบสดๆอย่างสุดอลังการ ก่อนที่เราจะถูกย้ายมานั่งที่โต๊ะเพื่อรับประทานเมนูอาหารทะเลรวมทั้งหมดถึง 17 คอร์สด้วยกัน !!
ซึ่งโดยรวมแล้วการมารับประทานอาหารทะเลของ Noma นั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ด้านอาหารที่ดีมากๆอันดับต้นๆในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ เมนูอาหารทุกจานไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์สดเนื้อหวานหอมที่สุด ไข่ปลาลัมป์ฟิชที่หาทานได้เฉพาะในฤดูกาลนี้เท่านั้น ไปจนถึง ก้ามปูอลาสก้าที่ใหญ่และฉ่ำที่สุดเท่าที่เคยทานมา นั้นสด แปลกใหม่และอร่อยล้ำจนรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เมนูอาหารจานถัดไปมาเสิร์ฟ แต่ยังไงก็ตาม ส่วนตัวยังรู้สึกว่ามื้ออาหารนี้แอบราคาแรงเกินไปซักหน่อยและอยากให้มีเมนูอาหารเพิ่มอีกซัก 2-3 คอร์สครับ
Panasm’s score : [★★★★★★★★, $$$$$]
1st course: Fresh Norwegian Scallop – หอยเชลล์จากทะเลนอร์เวย์ที่เชฟจะทำการแกะเปลือกตอนที่ลูกค้าเดินทางเข้ามาในร้านพอดีเพื่อรักษาความสดให้ดีที่สุด ขนาดตัวหอยยังติดกับเปลือกหอยอยู่เลย ซึ่งก็ทำได้ดีสมคำร่ำลือ เนื้อหอยหวานสดที่สุดเท่าที่เคยทานมาเลย
2nd course: Seafood Platter [Carpet Clam, Venus Clam, Mahogany Clam] – หอยแคลมสามชนิดประจำทะเลแถบสแกนดิเนเวียนนำมาเสิร์ฟสามรูปแบบคู่กับผลไม้ตระกูลไซตรัสชื่อ quince หอยทั้งสามชนิดแตกต่างกันและเข้ากับเครื่องเคียงที่ให้มาดีมาก ชอบมากๆๆๆๆ
(10/10) – Panasm’s Recommended
3rd course: Marinated Sweet Shrimp – กุ้งจิ๋วปลอมที่ทำมาจากผลเบอร์รีแห้งสอดไส้เนื้อกุ้งหมักรสหวานเข้ากับความเปรี้ยวของเบอร์รีได้ดี
4th course: Grey Shrimp cooked with Sea Lettuce – เนื้อกุ้งเกรย์ชริมป์ในผักกาดทะเลที่ทำเลียนแบบราวิโอลี ตัวรสชาตินี่เข้มข้นหอมอร่อย
5th course: Lumpfish Roe and Cured Egg Yolk with Ramson – ไข่ปลาลัมป์ฟิชเสิร์ฟในไข่แดงหมักโรยหน้าด้วยใบซากุระหอมๆเสิร์ฟคู่กับใบกระเทียมป่าย่างแบบเกรียมนิดๆ ทานคู่กันนี่สวรรค์เลย
(10/10) – Panasm’s Recommended
6th course: Cured Turbot – เนื้อปลาเทอร์บอตชิ้นพอดีคำหมักกับซอสมิโสะรสหวานหอมเสิร์ฟบนสาหร่ายทะเล ถือเป็นเมนูเนื้อปลาที่ทำรสสัมผัสออกมาได้ยอดเยี่ยมและรสชาติก็เยี่ยมยอดครับ
7th course: Medium Rare Blue Shell Mussel – เมนูที่มีความอลังการมากที่สุดในคอร์สกับเนื้อหอยแมลงภู่ที่คัดมาเฉพาะส่วนเนื้อก่อนนำมาปรุงแบบพอสุกเสิร์ฟคู่กับไข่ปลาคาเวียร์ในซุปสาหร่าย
8th course: Cod Bladder simmered with Quince – กะเพราะปลาค้อดที่นำมาปรุงได้อย่างดีจนมีรสสัมผัสที่เหนียวหนึบหนับเสิร์ฟในน้ำซุปเย็นปรุงรสเผ็ดกับผลไม้ 3 ชนิด
9th course: Cod Tongue Schnitzel – ลิ้นของปลาค้อดชุบแป้งทอดที่มีความโดดเด่นมากๆในด้านรสสัมผัสของเนื้อส่วนลิ้นปลาที่มีความกรอบเบาแปลกใหม่มากจริงๆ
10th course: Salt Cod Pie – พายเนื้อปลาค้อดอบใหม่ร้อนๆเสิร์ฟคู่กับกากนมคาราเมลและใบหอยนางรม
11th course: Beach Crab Gel and Pinecones – ซุปเจลเนื้อปูบีชแคร้บรสอูมามิเสิร์ฟคู่กับครีมรสนุ่มละมุนเข้ากัน
12th course: Boiled Brown Crab on Flatbread – เนื้อปูบราวแคร้บเสิร์ฟบนขนมปังกรอบสอดไส้แกงเครื่องเทศเนื้อปู ถือเป็นเมนูที่อร่อยและน่ารักมากๆเลย
13th course: Hot Smoked, then Barbecued Arctic King Crab – ไฮไลต์ของมื้อนี้กับขาปูอลาสก้าชิ้นใหญ่ยักษ์ที่รมควันและย่างมาแล้วเป็นอย่างดีเสิร์ฟคู่กับซอสฮอร์ชแรดิช ตัวเนื้อปูนี่นุ่มหวานฉ่ำ โคตรอร่อย !!
(10/10) – Panasm’s Recommended
14th course: Crab Salad – สลัดผักหลากชนิดพร้อมด้วยเนื้อปูอลาสก้ากับน้ำสลัดสมุนไพรหอมสดชื่น
15th course: Salted & Dried Berries from Summer – มูสโยเกิร์ตนมแพะเสิร์ฟคู่กับเบอร์รีตากแห้ง สาหร่ายและโคนต้นสนที่ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัวมากๆๆๆ
(10/10) – Panasm’s Recommended
16th course: Cardamom Scented Sea Star – ปลาดาวที่ทำมาจากคาราเมลและคาร์ดามอม เป็นขนมหวานที่เข้ากับบรรยากาศมาก
17th course: Chocolate Cod Skin – หนังปลาค้อดกรอบเคลือบดาร์กช็อกโกแลตเสิร์ฟมาคู่กับมีด นี่เป็นคอร์สเดียวใน Noma ที่รู้สึกเฉยๆครับ
ที่ตั้ง: Refshalevej 96, 1432 København K, Denmark
เวลาเปิดให้บริการ: 17:00 – 23:30
เบอร์ติดต่อ: +45 32 96 32 97
Website: https://noma.dk/food-and-wine/
Facebook: https://www.facebook.com/nomacph/
<<< ติดตามรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโคเปนเฮเกนและทั่วประเทศเดนมาร์กที่นี่ [CLICK] >>>
<<< รวมรีวิวร้านอาหารแนะนำระดับโลก ณ เมืองโคเปนเฮเกน [CLICK] >>>
เพื่อนๆสามารถติดตามอีกเว็ปไซต์ของผม “Yummy Gallery” เพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Twitter
(ผมเคยมีผลงานรีวิวในเว็ปบอร์ดของ Pantip และ Wongnai)
Leave a Reply