Nusara : “นุสรา” อาหารไทยแบบแต่งแต้มสีสันโดยฝีมือของ “เชฟต้น” แห่งร้าน Le Du @ ท่าเตียน

 

รีวิว: Nusara

ประเภทอาหาร: Thai

รางวัล: Asia’s 50 Best Restaurants อันดับที่ 10 (ปี 2022)

 

Nusara หรือ “นุสรา” คือ ร้านอาหารไทยในรูปแบบ fine dining เรือธงอีกแห่งของ “เชฟต้น” แห่งร้าน Le Du ที่หยิบเอาฝีมือการปรุงอาหารของคุณยาย “นุสรา” ของเขามาเติมแต่งแต้มสีสันกับวิธีการปรุงอาหารในสมัยใหม่และวัตถุดิบชั้นเลิศจนได้ออกมาเป็นเมนูอาหารแบบ tasting menu จำนวน 12 คอร์ส (3,590++ THB) ภายในบ้านโบราณหลังเล็กที่พร้อมรับแขกเพียงแค่ประมาณ 10 ที่นั่งเท่านั้น !! จนไม่น่าแปลกใจว่าทำไม Nusara ถึงเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารในกรุงเทพที่จองยากมากๆ !! โดยล่าสุด Nusara ยังได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 10 จาก Asia’s 50 Best Restaurants อีกด้วย

[รีวิว] โดยรวมแล้ว มื้ออาหารที่ร้าน Nusara นั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งมื้ออาหารไทยชั้นเลิศที่ทั้งอร่อยและน่าตื่นตาตื่นใจคุ้มค่ากับการจองอันแสนยากลำบากมากๆ โดยจุดเด่นของ Nusara นั้นก็หนีไม่พ้นการหยิบเอารสชาติอาหารแบบดั้งเดิมมาปรับโฉมใหม่แบบเป็นคำเล็กๆที่ทำให้ได้ลิ้มลองเมนูอร่อยๆหลากหลายรายการตลอดเวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ พร้อมด้วยการบริการแบบเป็นกันเองที่ดีเยี่ยม ใครที่ชอบทานอาหารไทยแนวใหม่ต้องไปจองกันครับ !!

 

Panasm’s rating : ★★★★★★

value for money : $$$$$

 

 

Amuse Bouche [15/20] – เมนูเรียกน้ำย่อย 2 คำ ได้แก่ ปั้นขลิบปลาเก๋าห่อแป้งสามชนิดคล้ายๆข้าวเกรียบปากหม้อและขนมครกหน้าหมูผัดสามเกลอ

 

1st course : Smoked Mackerel / Coconut / Cucumber / Young turmeric [17/20] – “หลนปลาอินทรีย์” เสิร์ฟแบบมูสเย็นทานคู่กับแตงกวาหั่นเต๋าและปลาอินทรีย์รมควัน

 

2nd course : Squid / Cucumber / Heirloom tomato [16/20] – “ยำปลาหมึก” เสิร์ฟเลียนแบบเมนูข้าวเกรียบปากหม้อโดยใช้หมึกหอมอ่าวไทยสไลด์บาง ห่อกับเครื่องแตงกวา มะเขือเทศ ขึ้นฉ่ายและดอกพวงชมพูราดด้วยน้ำยำ

 

3rd course : Crab curry / Betel leaf / Horseshoe crab roe [17/20] – “แกงปูใบชะพลู” แบบเน้นเนื้อกรรเชียงปูม้าอย่างจุใจคลุกเคล้ากับแกงเหลืองกะทิรสเผ็ดจัดจ้านเสิร์ฟคู่กับไข่แมงดาจานย่างและใบชะพลูกรอบ

 

4th course : Hokkaido scallop / Sweet corn / Kiffir lime kosho / Cured egg yolk [16/20] – “ยำเอ็นหอย” หอยเชลล์ฮอกไกโดเนื้อหวานฉ่ำหมักน้ำยามะกรูดโคโชเสิร์ฟแบบเย็นคู่กับซุปข้าวโพดโรยหน้าด้วยผงไข่แดงเค็ม

 

5th course : Paddy field crab roe / Aromatic rice / Thai chimichurri [15/20] – “อ่องปูนาอินทรีย์” จากลำพูนเสิร์ฟบนข้าวมันแบบสองสายพันธุ์ทั้งข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวเขี้ยวงูหุงในน้ำกะทิราดด้วยซอสสมุนไพรแบบไทย

 

6th course : Tom Kla soup / Gourami fish / Organic mushroom [16/20] – “ต้มข่าปลาสลิด” ที่ใช้ปลาสลิดบางบ่อนึ่งทอดและแอร์ดรายจนเนื้อกรอบฟูเสิร์ฟคู่กับเห็ดฟางอินทรีย์และต้มข่ากะทิย่างเตาถ่านที่เติมความกลมกล่อมด้วยน้ำมะขามและน้ำตาลมะพร้าว

 

7th course : Beef cheek / Bum-Bai curry / Pickled cucumber [16/20] – “บุ่มไบเนื้อ” ซึ่งเป็นแกงกะทิแบบอินเดียเสิร์ฟคู่กับเนื้อแก้มวัวตุ๋น หอมใหญ่ดองแตงกวาดองและกะทิเค็ม เมนูนี้จะเสริฟคู่กับข้าวสวยและเมนคอร์สอื่นๆในทีเดียว

 

8th course : Peanut relish / Seasonal vegetables / Shrimp paste water [14/20] – “น้ำพริกถั่วลิสง” ผสมกับน้ำเคยดีเสิร์ฟคู่กับผักพื้นบ้านสด มะระผัดไข่เป็ดกรอบและพริกน้ำปลาแบบนุสรา

 

9th course : Braised & Grilled Squid / Ginger / Palm sugar [15/20] – “หมึกไข่ซาเตี๊ยะ” เนื้อนุ่มเด้งเคี่ยวในน้ำตาลมะพร้าวเสิร์ฟคู่กับกระเทียมโทนดอง

 

10th course : Wagyu beef / Chili / Cumin [17/20] – “เนื้อวากิวผัดใบยี่หร่า” ที่จัดหนักรสชาติเข้มข้นเผ็ดร้อนได้ถึงใจ

 

11th course : Pickled lime soup / Braised giant ocean snail / Pork belly [15/20] – “ซุปมะนาวดอง” เสิร์ฟกับหอยโจงโดง ฟักต้ม เบค่อนและกระเทียมกรอบ

 

Pre-dessert [13/20] – ไอติมถังรสส้มซ่าโรยหน้าด้วยผิวส้มซ่าขูด

 

12th course : Sago / Young coconut [16/20] – “สาคูมะพร้าวอ่อน” ที่ทำจากเนื้อไม้ต้นสาคูแท้ๆสีน้ำตาลเนื้อหนืดนุ่มต้มกับมะพร้าวน้ำหอมเสิร์ฟคู่กับเผือกนึ่งและเกาลัดสไลด์

 

Petit Fours [13/20] – เมนูปิดท้ายมื้ออาหารแบบไทยๆที่ประกอบไปด้วย ขนมชั้นใบเตยสังขวา บ้าบิ่นห่อใบตองย่างเตาถ่าน หม้อตาลน้ำตาลมะพร้าว กล้วยแขกจากกล้วยหอมกวนผสมกล้วยหักมุกและผลไม้ประจำฤดูกาลกับน้ำปลาหวานผงบ๊วย

 

ที่ตั้ง: 22 ถ. มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

เวลาเปิดให้บริการ: 18:00 – 23:00

เบอร์ติดต่อ: 097-293-5549

Website: –

Facebook page: https://www.facebook.com/nusarabkk/

 

<<< Michelin-starred Restaurant Reviews : รวมรีวิวสุดยอดร้านอาหารเจ้าของดาวมิชลินสตาร์ [CLICK] >>>

 

เพื่อนๆสามารถติดตามอีกเว็ปไซต์ของผม “Yummy Gallery” เพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Twitter
(ผมเคยมีผลงานรีวิวในเว็ปบอร์ดของ Pantip และ Wongnai)