Sasada : ร้านซูชิแบบ “โอมากาเสะ” แนวสมัยใหม่โดยฝีมือของเชฟชาวญี่ปุ่น @ Hyatt Regency Hotel, สุขุมวิท 13

 

รีวิว: Sasada

ประเภทอาหาร: Sushi

 

Sasada คือ ร้านซูชิแบบ “โอมากาเสะ” หรือ “ตามใจเชฟ” โดยฝีมือของเชฟ Tomoki Sasada ที่สร้างสรรค์ให้ร้านซูชิที่ซ่อนอยู่ในโรงแรม Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit แห่งนี้กลายมาเป็นหนึ่งในร้านซูชิที่มีชื่อเสียงและลูกค้าประจำจำนวนมากด้วยการนำเสนอเมนูซูชิที่ผสมผสานกรรมวิธีแบบดั้งเดิมเข้ากับวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ที่มีลูกเล่นและเมนูที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย อาทิ เทมปุระหูฉลาม หรือ ข้าวเหนียวไข่ปลาคาราสุมิ ซึ่งลูกค้าก็สามารถเลือกได้ 2 ราคา ได้แก่ 4,500++ THB และ 6,500++ THB ที่เพิ่มเมนูเป๋าฮื้อ ปูขนและหูฉลาม นอกจากนั้นยังสามารถสั่งเมนูแซนด์วิชวากิวคัตสึ (890++ THB) เพิ่มได้อีกด้วย

[รีวิว] โดยรวมแล้ว Sasada ถือเป็นหนึ่งในร้านโอมากาเสะแถวหน้าของเมืองไทยที่การันตีคุณภาพและรสชาติของซูชิได้แบบสบายใจได้ โดยทีเด็ดของ Sasada ในความเห็นส่วนตัวก็หนีไม่พ้นเมนูที่ไม่ใช่ซูชิที่หลายๆจานมีความแปลกใหม่และทำให้ได้ทานวัตถุดิบที่หลากหลายในรสชาติและรสสัมผัสที่ต่างๆกันไปจนทำให้มื้ออาหารกว่า 22 คอร์สนี้สนุกและเพลินมากๆ แนะนำสำหรับคนที่ยังไม่เคยลองและชอบซูชิแนวสมัยใหม่ปนเก่าครับ

 

Panasm’s rating : ★★★★★★

value for money : $$$$$

 

 

1st course : Sakura-masu [15/20] – เนื้อปลาซากุระมาสึที่คล้ายๆกับแซลม่อนเสิร์ฟคู่กับไข่ปลาคาเวียร์และแอปเปิ้ลเขียว

 

2nd course : Hotaru Ika [14/20] – หมึกหิ่งห้อยเนื้อมันๆนุ่มๆเสิร์ฟคู่กับวาซาบิ

 

3rd course : Ankimo [16/20] – ทาร์ตตับปลามังค์ฟิชบดเนื้อมันๆหวานๆโรยหน้าด้วยดอกใบโอบะ

 

4th course : Meji Maguro [16/20] – เนื้อปลามากุโระสายพันธ์ุเล็กย่างเตาไฟให้ด้านนอกสุกนิดๆเสิร์ฟแบบซาชิมิสองชิ้นใหญ่

 

5th course : Awabi [17/20] – หอยเป๋าฮื้อเนื้อเด้งดึ๋งเสิร์ฟคู่กับข้าวซูชิและซอสตับหอยเป๋าฮื้อเนื้อมันๆหอมๆโรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลดำ

 

6th course : Karasumi Roe [16/20] – ไข่ปลาคาราซุมิรสเค็มๆมันๆทานคู่กับข้าวเหนียวเขี้ยวงู

 

7th course : Iwakaki [16/20] – หอยนางรมทอดแบบคัตสึที่ด้านในยังคงชุ่มฉ่ำเสิร์ฟในซอสพอนสึรสเปรี้ยวหวานสดชื่น

 

8th course : Kegani [17/20] – ไข่หวานและเนื้อปูขนหวานๆร้อนๆเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมมันปูขนแช่แข็งหั่นเป็นชิ้นๆ ถือเป็นเมนูสองอุณหภูมิที่อร่อยเข้ากันมาก

 

9th course : Unagi [16/20] – ปลาไหลย่างหนังกรอบเนื้อนุ่มฉ่ำละลายเสิร์ฟคู่กับผักกูดญี่ปุ่นและซอสหวาน

 

10th course : Yuzu Sorbet [14/20] – ซอร์เบต์ส้มยูสุเย็นๆกับน้ำอัญชันสำหรับล้างปากก่อนเริ่มทานเมนูซูชิ

 

11th course : Sumi Ika [15/20] – ซูชิหน้าปลาหมึกกระดองที่เนื้อสัมผัสหนุ่มกำลังดี

 

12th course : Kuromutsu [16/20] – ซูชิหน้าปลากระพงน้ำลึกที่เชฟใช้ไฟเบิร์นหนังจนกรอบหอม

 

13th course : Chutoro [16/20] – ซูชิหน้าชูโทโร่ปรุงแบบคลาสสิคเนื้อนุ่มละลาย

 

14th course : Otoro [17/20] – ซูชิหน้าโอโทโร่ที่เชฟนำไปเผาไฟตรงขอบนอกเพิ่มความหอมแต่ความละลายยังคงอยู่แบบเต็มๆ

 

15th course : Shima Aji [16/20] – ซูชิหน้าปลาชิมะอาจิเนื้อเด้งกรึบตามที่ควรจะเป็น

 

16th course : Hotate [16/20] – ซูชิหน้าหอยเชลล์เนื้อหวานละมุนเติมความหอมด้วยยูสุ

 

17th course : Shark Fin Tempura [17/20] – เมนูไฮไลต์ของ Sasada ที่ใช้หูฉลามชิ้นโตชุบแป้งเทมปุระทอดกรอบๆแต่ข้างในยังฉ่ำห่อด้วยสาหร่ายไส้ข้าวซูชิและโทโร่สับ

 

18th course Kamasu [16/20] – มากิหน้าปลาคามาสึหรือปลาบาราคูด้าสอดไส้ผักญี่ปุ่นที่ช่วยเติมรสชาติและรสสัมผัส

 

19th course : Uni [16/20] – ข้าวซูชิหน้าอูนิหลากสีสันที่โปะมาแบบล้นๆเสิร์ฟคู่กับวาซาบิ

 

20th course : Lobster [16/20] – ล็อบสเตอร์เนื้อหวานเด้งเสิร์ฟคู่กับซอสมันกุ้ง คีนัวญี่ปุ่นและข้าวซูชิ

 

21st course : Ramen [16/20] – ราเมนถ้วยเล็กในซุปที่รสชาติกลมกล่อมมากๆพร้อมด้วยหน่อไม้ดอง ถือเป็นเมนูราเมนที่อร่อยกว่าร้านราเมนดังๆอีก !!

 

22nd course : Hojicha Icecream [14/20] – ไอติมโฮจิฉะทานคู่กับซอสสตรอเบอร์รี

 

23rd course : Petit Fours [15/20] – ขนมหวานปิดท้ายมื้ออาหาร 4 อย่าง ได้แก่ ไข่หวานเนื้อนุ่ม ฟินานเซียไส้แยทยูสุ ช็อกโกแลตมัตฉะและมาการองไส้อูนิแบบขนมหวาน

 

ที่ตั้ง: Hyatt Regency Hotel, เลขที่ 1 ซ. สุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 (BTS นานา)

เวลาเปิดให้บริการ: 17:00 – 21:00 (เสาร์-อาทิตย์ มีรอบเที่ยง)

เบอร์ติดต่อ: 092-669-6463

Website: –

Facebook page: https://www.facebook.com/SASADAOMAKASE/

 

เพื่อนๆสามารถติดตาม Panasm.com เพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Instagram และ Twitter
(ผมเคยมีผลงานรีวิวในเว็ปบอร์ดของ Pantip และ Wongnai)